Miracle Stem Cell Therapy
สเต็มเซลล์ เธอราพี
นวัตกรรมด้านความงามที่ได้กำลังรับความสนใจ
ช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวเเละเสริมสุขภาพเเก่ผิว
คืนประสิทธิภาพการทำงานของเซลล์ให้แข็งแรง
Miracle Stem Cells Therapy
รอยแผลเป็นจากการผ่าตัดบริเวณใบหน้าจางลง
หลังจากรับบริการฉีด Stem Cells ประมาณ 1-2 เดือน
ผลการรักษาขึ้นอยู่กับเเต่ละบุคคล
สนใจสอบถามโปรโมชั่น
ได้ที่สาขาที่ต้องการเข้ารับบริการได้เลยนะคะ
——————————————————
ต้องการสอบถามข้อมูล/นัดคิวพบแพทย์
มีให้บริการทั้งทาง Line เเละ FB กดที่ไอคอนได้เลยค่ะ
เปิดให้บริการทุกวันเวลา 11:00 น. – 20:00 น.
โทรศัพท์สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
– สาขาสุขุมวิท 42/1 : 096-895-4232 , 02-712-2127
– สาขาลาดพร้าว 114 : 094-794-2423 , 02-931-8999
– สาขาปิ่นเกล้าแยกบรมราชชนนี : 095-649-4623 , 02-881-7888
– สาขา BTS วงเวียนใหญ่ : 061-645-1646 , 02-862-1999
– สาขาเมืองทองธานี : 096-946-9665 , 02-981-7888
– สาขารังสิต พหลโยธิน 74 : 099-232-9936 , 02-998-9666
แผนที่คลินิกคลิ๊ก !!
สเต็มเซลล์ ยกกระชับผิวหน้าชะลอวัยผิวพรรณสดใส
สเต็มเซลล์หรือเซลล์ต้นกำเนิด เป็นสเต็มเซลล์ที่กล่าวถึงกันในปัจจุบันซึ่งนำมาใช้ในการรักษาคนมีอยู่ชนิดเดียวคือ เซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิตที่ดูดมาจากไขกระดูก ซึ่งเป็นเซลล์ต้นกำเนิดที่จะเจริญเป็นเม็ดเลือดขาวเม็ดเลือดแดง และเกล็ดเลือดต่อไป เซลล์ต้นกำเนิดไม่ว่าจะเอามาจากไขกระดูก หลอดเลือด หรือรก ล้วนเป็นเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิตทั้งนั้น ฉะนั้นการรักษาโดยตรงคือ การรักษาโรคทางโลหิตวิทยา ไม่ว่าจะเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งต่อมน้ำเหลือง ธาลัสซีเมีย ไขกระดูกฝ่อ ภูมิคุ้มกันผิดปกติตั้งแต่กำเนิด
ส่วนสเต็มเซลล์ที่ใช้ในด้านความงาม หากนำสเต็มเซลล์ (stem cell) มาฉีดเข้าสู่ใบหน้า สามารถนำไปซ่อมแซมเซลล์ผิวให้ดีขึ้นได้ โดยสามารถชะลอวัย เพราะความแก่เกิดจากปัจจัยหลักคือ เซลล์ถูกทำลายมากกว่าการสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาทดแทน ทำให้ความสมดุลภายในเริ่มเสีย รวมทั้งการแสดงออกทางผิวหนังและริ้วรอยต่างๆ จึงได้มีการพัฒนา สเต็มเซลล์ขึ้นมาในรูปแบบต่างๆ เพื่อใช้ในการฟื้นฟูความอ่อนเยาว์ ให้ผิวกลับมาดูเปล่งปลั่ง สดใส เป็นหนุ่มเป็นสาวอีกครั้ง การทำออกมาในรูปแบบยาฉีด ซึ่งจะมีประสิทธิภาพในการรักษาที่สูงกว่า ซึ่งออเธนทิคคลินิกให้บริการฉีดสเต็มเซลล์ เพื่อสุขภาพ หรือเฉพาะส่วน ที่มีแพทย์ และพยาบาลดูแลอย่างใกล้ชิดพร้อมอุปกรณ์ที่ทันสมัยพร้อมให้บริการ
สเต็มเซลล์ ถือเป็นที่สุดของวงการแพทย์ในทุกแขนง โดยเฉพาะวงการแพทย์ผิวหนังและความงาม เพราะ สเต็มเซลล์ก็คือการใช้เซลล์ซ่อมเซลล์ คอยซ่อมแซมความเสื่อมของร่างกาย ปกติคนเราจะมีสเต็มเซลล์ที่ช่วยซ่อมแซมภายในร่างกายอยู่แล้ว แต่การซ่อมแซมนั้นอาจไม่สมบูรณ์เนื่องจากสเต็มเซลล์มีจำนวนลดลงเมื่ออายุมากขึ้น เพราะฉะนั้นการเพิ่มปริมาณสเต็มเซลล์ใหม่ที่มีคุณภาพสูงและสด ที่ยังมีชีวิตอยู่ (Live Stem Cell) ให้กับผิวหน้าจะช่วยให้เซลล์เหมือนเซลล์ผิวเด็ก ช่วยให้ผิวพรรณกระจ่างใส ดูอ่อนกว่าวัย ลดริ้วรอย ความหมองคล้ำ เมื่อเราอายุมากขึ้นปริมาณสเต็มเซลล์และคอลลาเจนลดลง เม็ดสีส่วนเกินถูกขจัดได้ช้าลง ผิวหนังบาง แพ้ง่าย นำไปสู่ปัญหาริ้วรอย ร่องลึก ฝ้า กระ สิ่งเหล่านี้เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่า เรากำลังก้าวเดินเข้าสู่หนทางของความชรา เชื่อว่าปริมาณสเต็มเซลล์ที่ลดลงเป็นสาเหตุหนึ่งของปัญหาเหล่านี้ เพราะความสามารถในการทำให้ร่างกายคืนสู่สภาพสมบูรณ์ลดลง
Stem Cell Therapy บำรุงรักษาเซลล์ที่ไม่แข็งแรง และเสื่อมสภาพ ให้กลับมามีความแข็งแรง นอกจากนี้ยังสร้างเซลล์ใหม่มาทดแทนเซลล์เก่า เพื่อให้ร่างกายสามารถทำงานได้ปกติสามารถดำรงอยู่ได้จนสิ้นอายุ Stem Cell Therapy ได้ถูกคิดค้นและพัฒนาขึ้นครั้งแรกที่ประเทศ Switzerland เป็นเวลานานเกือบศตวรรษ ในปี ค.ศ. 1931 โดยศาตราจารย์ Paul Niehans ศัลยแพทย์ชาวสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งนำน้ำที่ได้จากการบดเซลล์ต่อมพาราไทรอยด์จากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ฉีดเข้าผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อกระตุกเกร็ง เนื่องจากผู้ป่วยถูกตัดต่อมพาราไทรอยด์โดยบังเอิญ ปรากฏว่าผู้ป่วยหายจากโรคชักเกร็งได้ และไม่มีการแพ้ใดๆ จากการติดตามผู้ป่วยต่อไปอีก 25 ปีหลังจากนั้น เขาเรียกการรักษาชนิดนี้ว่า “Live Cell Therapy” หลังจากนั้น แพทย์หลายต่อหลายท่าน ในยุโรปโดยเฉพาะเยอรมันก็ ได้พัฒนา Live Cell Therapy หรือ การปลูกถ่ายเซลล์สด จนแพร่หลาย มีการค้นพบว่าน้ำที่ได้จากการบดเซลล์หนึ่ง จะไปซ่อมแซม เซลล์ชนิดเดียวกัน เช่น เซลล์ตับก็จะไปซ่อมแซมที่ตับ ทฤษฎีนี้เรียกว่า Cell Heals Cell กลายเป็นที่ฮือฮากันอย่างมากในหมู่บุคคลชั้นสูง (เนื่องจากค่าใช้จ่าย ค่อนข้างแพง) เชื่อว่าการรักษาวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการดูแลรักษาโดยการใช้กลุ่มเนื้อเยื่อดีมาสร้างและปรับปรุงเซลล์ให้มีการทำงานที่ดีขึ้น และช่วยซ่อมแซมในส่วนที่อ่อนแอ หรือเนื้อเยื่อที่สึกหรอด้วยให้ร่างกายมีชีวิตชีวามากขึ้น Paul Niehans ศัลยแพทย์ชาวสวิตเซอร์แลนด์ ได้ริเริ่มนำ Live Cell Therapy มาใช้เพื่อฟื้นฟูความงามและความอ่อนเยาว์ให้แก่บรรดาบุคคลชั้นสูงในทวีปยุโรป ผลการรักษาที่น่ามหัศจรรย์นี้เองก่อให้เกิดกระแสนิยมในหมู่บุคคลชั้นสูงและมหาเศรษฐีจากทั่วโลก ที่จะต้องบินไปรับบริการจากคลินิกระดับไฮคลาสในสวิตเซอร์แลนด์ ในอัตราค่ารักษารวมนับล้านบาท เพื่อที่จะได้กลับมามีใบหน้าที่อ่อนเยาว์อีกครั้ง
สเต็มเซลล์ เเบ่งได้ 2 ประเภท คือ
1 Embryonic Stem Cell (เซลล์ต้นกำเนิดตัวอ่อน) เซลล์ตัวอ่อนตั้งแต่ปฏิสนธิ
2 Adult Stem Cell (เซลล์ต้นกำเนิดโตเต็มวัย) สเต็มเซลล์จากเนื้อเยื่อที่โตเต็มวัย เช่น ไขกระดูก, เลือด, เลือดจากสายสะดือทารก, รก, ฟันน้ำนม, เนื้อเยื่อไขมัน เป็นต้น
สเต็มเซลล์ที่นำมาใช้ เสริมสร้างความงาม และเสริมสร้างความอ่อนเยาว์ ย้อนวัยหนุ่มสาว จะใช้เซลล์ต้นกำเนิดที่เรียกว่า มิเซนไคยมอล สเต็มเซลล์ (Mesenchymal stem cells –MSC) ซึ่งเป็น Adult Stem Cell
คุณสมบัติของสเต็มเซลล์
แบ่งตัวเพิ่มจำนวน เพื่อทดแทนเซลล์ที่หมดสภาพ ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
แบ่งตัวแล้วยังคงรักษาคุณสมบัติเดิมได้
เปลี่ยนแปลงเป็นเซลล์ชนิดอื่นได้ถ้าจำเป็น
ทำไม Mesenchymal Stem Cells (MSC) จึงช่วยให้หน้าเด็ก
MSC เป็นเซลล์ต้นกำเนิดที่มีคุณสมบัติ เปลี่ยนแปลงไปเป็นเซลล์ต่างๆ และยังสามารถนำไปใช้กับผู้อื่นได้โดยไม่เกิดการต่อต้านของเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันของผู้รับ เรียกว่า Universal donor ดังนั้นจึงนำมาใช้ในการรักษาเซลล์บำบัด (Cell Therapy) อย่างกว้างขวาง
Mesenchymal Stem Cells (MSC) นี้ยังมีคุณสมบัติเป็นเซลล์ต้นกำเนิดในการสร้าง Connective Tissue ช่วยสร้างเส้นใยคอลลาเจนและอีลาสติน รวมถึงการสร้างหลอดเลือดและเนื้อเยื่อไขมัน กระตุ้นให้เกิดการไหลเวียนเลือดทำให้ผิว ได้รับสารอาหารมากขึ้น ผิวจึงมีความยืดหยุ่น มีน้ำมีนวล เปล่งประกาย
สเต็มเซลล์ ทรีทเมนต์ ขั้นตอนแรกคนไข้ควรเข้ามาปรึกษาแพทย์ โดยให้เห็นสภาพปัญหาผิวพรรณจริง เพื่อวิเคราะห์ปัญหาด้านผิวพรรณในเชิงลึกเพื่อกำหนดจำนวนเซลล์ (หน่วย: ล้านเซลล์) ที่จะใช้สำหรับแต่ละบุคคลนั้น เพราะจะขึ้นอยู่กับสภาพของแต่ละบุคคลโดยแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาการรักษา (ไม่มีค่าใช้จ่ายในการประเมินวินิจฉัยการรักษา) อาจเพิ่มประสิทธิภาพของการรักษาโดยใช้การรักษาแบบอื่นร่วมด้วย
Stem Cell Treatment เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป และมีสภาพผิวที่อ่อนแอ ผ่านการทำทรีตเมนต์ หรือการรักษามาหลายอย่างแล้วไม่ได้ผล ผลของ Stem Cell จะเข้าไปฟื้นฟูผิวลงลึกถึงระดับเซลล์ (Cellular Level) ทำให้ผิวแข็งแรง ทำให้ตอบสนองต่อการรักษาต่างๆ ได้ดีขึ้น
- เพื่อชะลออายุผิว ผิวจึงดูอ่อนเยาว์
- ฟื้นฟูผิว ริ้วรอยตื้นๆ จางลง
- คืนความชุ่มชื้น
- คืนความกระชับ และความเต่งตึงให้กับผิว
- พบว่าในบางราย ฝ้าสามารถจางลงได้
- เห็นผลภายใน 2-3 เดือน
- ใช้เวลา 30 นาที
- ควรรับบริการทุกๆ 6 เดือน – 1 ปี
สเต็มเซลล์กับความงาม
การนำ stem cell มาใช้ในการเสริมความงามเพื่อรักษาผิวพรรณ โดยใช้ในรูปแบบการฉีด ซึ่ง stem cell ส่วนที่นำมาใช้เพื่อความงามนั้นจะเป็น stem cell จากสายสะดือเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากร่างกายของคนเราจะผลิต stem cell ได้ในปริมาณที่น้อยในการที่จะนำ stem cell มาใช้นั้นจะต้องมีการกระตุ้นให้เกิดเซลล์จำนวนมากขึ้นโดยการนำ stem cell ไปทำการเพาะเลี้ยงให้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น
สเต็มเซลล์จะทำหน้าที่
- ลดริ้วรอยและรักษารอยแผล ทำให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่งและทำให้เซลล์ผิวโดยรวมดูอ่อนเยาว์อย่างเห็นได้ชัดเจน
- ซ่อมแซมและฟื้นฟูผิวที่เสื่อมสภาพ เช่น ซ่อมแซมเซลล์ผิวที่ได้รับความเสียหายจาก UVB
- เพิ่มความแข็งแรงให้กับผิวหนังชั้น dermis
- เพิ่มเซลล์ fibroblasts ซึ่งเป็นเซลล์ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตคอลลาเจนและอิลาสติน ให้กับผิวหนัง
- กระตุ้นการทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระ
- กระตุ้นการทำงานของ growth factor และ cytokines ซึ่งสารเหล่านี้จะช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน
- ช่วยในการกระตุ้นคอลลาเจน
ตำแหน่งที่ฉีดในด้านความงาม
?ฉีดเข้าผิวหน้า
เพื่อลดริ้วรอย, ร่องลึกต่างๆ ช่วยให้ผิวหน้าเต่งตึงเรียบเนียน รูขุมขนกระชับ ผิวกระจ่างใส เปล่งปลั่งมีออร่าอย่างเห็นได้ชัด เช่น หน้า คอ ร่องแก้มร่องใต้ตา หน้าผาก แก้ม เป็นต้น
จำนวนเซลล์เริ่มต้น 5 ล้านเซลล์ ขึ้นอยู่กับสภาพผิวหน้าและการประเมินของแพทย์
?ฉีดเข้าทางหลอดเลือดดำ
เพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างเซลล์ผิวพรรณให้กระชับ เต่งตึงปรับสมดุลผิวเพื่อความขาวกระจ่างใส เปล่งเปลั่ง แข็งแรงอ่อนเยาว์ มีน้ำมีนวล ลบริ้วรอย ผิวพรรณเรียบเนียนทั่วเรือนร่าง และยังสามารถป้องกันผื่นแพ้ต่างๆ
จำนวนเซลล์เริ่มต้น 15-20 ล้านเซลล์ ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการประเมินของแพทย์