Miracle Perfect Skin
ผลการรักษาขึ้นอยู่กับเเต่ละบุคคล
ผลการรักษาขึ้นอยู่กับเเต่ละบุคคล
นวัตกรรมการกำจัดไฝ ขี้แมลงวัน กระเนื้อ ติ่งเนื้อ
ตุ่มไขมัน สิวหิน ปลอดภัย รวดเร็ว ไม่ต้องเสียเวลา
ไม่เสียเลือด ไม่ต้องเย็บ ทำเพียงครั้งเดียว
แผลหายเร็ว เผยผิวเรียบเนียนได้อย่างมั่นใจ
เลเซอร์ CO2 มีดผ่าตัดยุคใหม่ ทำสวยได้ไม่เสียเลือด
เริ่มต้นเพียงจุดละ 500 บาท
ราคาเหมาจ่ายขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาของคนไข้
ดูรีวิว กำจัดขี้เเมลงวัน คลิ๊ก ที่รูปได้เลยค่ะ
——————————————————
ต้องการสอบถามข้อมูล/นัดคิวพบแพทย์
มีให้บริการทั้งทาง Line เเละ FB กดที่ไอคอนได้เลยค่ะ
เปิดให้บริการทุกวันเวลา 11:00 น. – 20:00 น.
โทรศัพท์สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
– สาขาสุขุมวิท 42/1 : 096-895-4232 , 02-712-2127
– สาขา BTS วงเวียนใหญ่ : 061-645-1646 , 02-862-1999
– สาขาเมืองทองธานี : 096-946-9665 , 02-981-7888
แผนที่คลินิกคลิ๊ก !!
ด้วยเทคนิคการใช้เลเซอร์คาร์บอนไดออกไซด์ที่เป็นพลังงานแสงของเครื่องแสงอินฟาเรด ที่มีประสิทธิภาพของการรักษาไฝ ขี้แมลงวัน กระเนื้อ ติ่งเนื้อ ตุ่มไขมัน สิวหิน โดยเลเซอร์จะถูกดูดซับน้ำที่เป็นส่วนประกอบในชั้นผิวหนังกำพร้า และหนังแท้ ทำให้เกิดความร้อนสูงในตำแหน่งที่ต้องการรักษา ทำให้ส่วนเกินที่ไม่ต้องการหลุดลอกออกไป เป็นวิธีที่ปลอดภัย ไม่ต้องเสียเวลา ไม่เสียเลือด ไม่ต้องเย็บ ทำเพียงครั้งเดียว แถมแผลยังหายเร็ว
นวัตกรรมการรักษาไฝ ขี้แมลงวัน กระเนื้อ ติ่งเนื้อ ตุ่มไขมัน สิวหิน อย่างได้ผล เมื่อพูดถึงแล้ว คงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น กับตัวเอง เพราะถึงแม้จะไม่มีอันตรายที่ร้ายแรงต่อร่างกาย แต่ก็สร้างความไม่สวยงามและยังสร้างความน่ารำคาญอีกด้วย ยิ่งสำหรับคนที่เป็นแล้ว ไม่ใช่เพียงความไม่สวยงามที่เกิดขึ้นเท่านั้น แต่ยังทำให้เกิดความไม่สบายใจกับผู้ที่เป็น จึงอาจสร้างความอับอายและอาจถูกสังคมรังเกียจ ซึ่งการรักษาในสมัยก่อนก็ยังไม่มีประสิทธิภาพมากพอ แถมยังมีราคาสูง และอาจทิ้งรอยแผลเป็นเอาไว้ให้ช้ำใจเล่นอีกต่างหาก แต่วันนี้ไม่ต้องเป็นกังวลอีกต่อไป เพราะเรามีนวัตกรรมการรักษา ติ่งเนื้อ กระเนื้อ ที่ได้ผลดีและมีประสิทธิภาพ ที่ง่าย ปลอดภัย และไม่เจ็บตัว
สาเหตุของการเกิดไฝ ขี้แมลงวัน กระเนื้อ ติ่งเนื้อ ตุ่มไขมัน สิวหิน เป็นความผิดปกติของเซลที่จับตัวกันเป็นกลุ่มใต้ผิวหนัง แต่ในทางการแพทย์ ระบุว่าไฝทุกเม็ดอาจก่อให้เกิดมะเร็งได้ จึงควรสังเกตุไฝ ติ่งเนื้อ และขี้แมลงวัน รูปร่าง สี และขนาดรอบๆ ไฝมีการอักเสบ บวมแดงหรือไม่ ถ้าคุณพบความผิดปกติเกิดขึ้นกับไฝหรือขี้แมลงวัน ควรปรึกษาแพทย์
ไฝ และขี้แมลงวัน เป็นภาวะปกติของผิวหนังที่พบได้บ่อย ๆ ในเกือบทุกคน จะมากน้อยแตกต่างก็แล้วแต่เชื้อชาติ กรรมพันธุ์และตัวบุคคลเอง แต่ก็มีคำถามกันบ่อยๆ ว่ากรณีที่มีปริมาณมากๆ หรือลักษณะอย่างนี้จะมีอันตรายอะไรหรือไม่ จะกลายเป็นมะเร็งภายหลังหรือเปล่า จึงขอนำเสนอบทความการจะพิจารณาอย่างไรในการจะพบแพทย์เพื่อแก้ไขปัญหาไฝ ขี้แมลงวัน ว่าจะกลายพันธุ์ในอนาคตหรือไม่ ไฝ และขี้แมลงวัน มีสาเหตุมาจากความผิดปกติของ Melanocyte ซึ่งเป็นเซลล์ที่มีอยู่ในชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) โดยมีหน้าที่ในการสร้างเม็ดสีเมลานิน ซึ่งปริมาณและขนาดของเมลานิน จะเป็นตัวกำหนดสีผิวของคนเรา ว่าจะมีผิวขาว ผิวคล้ำมากน้อยเพียงใด แล้วเป็นเนื้องอกจากการเพิ่มจำนวนของเซลล์เมลาโนไซท์ โดยไฝจะมีลักษณะเป็นตุ่มนูน ส่วนขี้แมลงวันจะเป็นตุ่มราบสีดำ และอยู่ตื้นกว่าไฝ
โดยทั่วๆ ไป ไฝและขี้แมลงวัน จะมีการเพิ่มขึ้นตามอายุอย่างช้าๆ ซึ่งมักจะสังเกตได้ในช่วงวัยรุ่นหรือตั้งครรภ์ โดยการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจะเกิดในบริเวณทั่วพร้อมๆ กัน และมีการติดตามแล้วพบว่า ไฝ และขี้แมลงวัน จะมีโอกาสเกิดมะเร็งผิวหนังได้ ที่เรียกว่า Melanoma ซึ่งมีอันตรายร้ายแรงและเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ แต่ในคนไทยพบได้น้อย ดังนั้นการสังเกตความเปลี่ยนแปลงตั้งแต่แรกเริ่ม จึงมีความจำเป็น และแก้ไขได้ทันท่วงที
ลักษณะของไฝ และขี้แมลงวัน ที่อาจจะต้องพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยต่อไป มีดังนี้
- ไฝที่ลักษณะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม คือ โตเร็วขึ้น มีขอบเขตไม่ชัดเจน มีขอบยื่นมา ไม่กลมชัด มีการเปลี่ยนสี มีแผล มีเลือดออก มีสะเก็ด มีอาการคัน ปวด กดเจ็บ มีไฝเล็กเกิดรอบๆ ไฝเม็ดใหญ่ หรือมีต่อมน้ำเหลืองบริเวณนั้นโตขึ้น
- ไฝที่อยู่ในบริเวณที่ถูกเสียดสีมากๆ ได้แก่ บริเวณคาดเข็มขัด บริเวณรัดของเสื้อยกทรง บริเวณคอที่ถูกสร้อยถูไถ
- ไฝในที่ลับตา เช่น ที่หนังศีรษะ หรือขาหนีบ เนื่องจากไฝเหล่านี้ หากเกิดการเปลี่ยนแปลงจะไม่สามารถสังเกตเห็นได้
- ไฝที่เป็นแผ่น นูนตามศีรษะ มีผิวเหมือนกำมะหยี่ เป็นมาตั้งแต่เด็กๆ
- ไฝที่บริเวณที่ได้รับการฉายรังสี
- ไฝที่มีหลายสีปนกัน เช่น สีน้ำตาล ดำ น้ำเงิน เทา พบตามฝ่ามือ ฝ่าเท้าและใต้เล็บ
ส่วนติ่งเนื้อ กระเนื้อ มีสาเหตุมาจากกรรมพันธุ์และอายุที่มากขึ้น มักพบในผู้ที่มีอายุ 30 ปี ขึ้นไป จะมีขนาดใหญ่และจำนวนมากขึ้นเมื่ออายุเพิ่มขึ้น มักมีประวัติเป็นในครอบครัวเดียวกัน ซึ่งไม่มีอันตราย เพียงแต่ดูไม่สวยงามเท่านั้น
ลักษณะอาการของการเกิด ติ่งเนื้อ กระเนื้อ
ตุ่มไขมันจะมีลักษณะเป็นตุ่มกลมแข็งๆ ผิวหยาบ ออกเป็นสีเทาๆ เหลืองๆ หรือน้ำตาล ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2-10มิลลิเมตร มักจะขึ้นตรงบริเวณที่ถูกเสียดสีง่าย เช่น มือ เท้า ข้อศอก ข้อเข่า ใบหน้า หนังศีรษะ นิ้วมือ นิ้วเท้า หรือตามผิวหนังส่วนอื่นๆ ซึ่งอาจแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกายได้ ส่วนที่เป็นที่ฝ่ามือหรือฝ่าเท้าจะมีลักษณะเป็นไตแข็งๆ หยาบๆ แต่จะแบนราบเท่าระดับผิวหนังที่ปกติ เพราะมีแรงกดขณะสัมผัสหรือเดิน ส่วนติ่งเนื้อ เป็นติ่งที่เกิดขึ้นบนผิวหนัง ขนาดประมาณน้อยกว่า 1 มม. จนถึงมากกว่า 10 มม. เวลาเสียดสีอาจมีเลือดออกได้ ลักษณะของติ่งจะมีสีเดียวกับผิวหนัง พบบริเวณเปลือกตา คอ รักแร้ ใต้ราวนม ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีอาการ แต่ถ้ามีการเสียดสีอาจเจ็บได้ ส่วนกระเนื้อ มีลักษณะเป็นเป็นตุ่มเล็กๆ สีน้ำตาลอ่อน ซึ่งจะขยายใหญ่ นูนหนา สีเข้ม และขรุขระขึ้นได้อย่างช้าๆ ยิ่งมีอายุเพิ่มขึ้น ก็จะยิ่งมีขนาดใหญ่ และเพิ่มจำนวนขึ้น พบได้ที่บริเวณใบหน้า คอ ลำตัว ศีรษะ หน้าอก และหลัง
เลเซอร์ CO2 ย่อมาจาก Carbondioxide Laser ซึ่งเป็นเลเซอร์ที่ใช้ในการตัด ขี้แมลงวัน ไฝ กระเนื้อ ติ่งเนื้อ ด้วยประสิทธิภาพที่ดียิ่งกว่าคมมีดผ่าตัด เนื่องจาก เลเซอร์ CO2 มีความแม่นยำในการรักษาสูงและมีการเสียเลือดน้อยมากหรือแทบจะไม่มีเลย ซึ่งจะรักษาได้ดีกับปัญหาผิวหนังที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก เช่น ไฝ ขี้แมลงวัน ติ่งเนื้อ ตุ่มไขมัน และยังรวมถึงการรักษาสิวอุดตัน รอยแผลเป็นจากสิว สิวหิน ได้อีกด้วย
หลักการทำงานของ เลเซอร์ CO2 ซึ่งเป็นพลังงานความร้อนชนิดหนึ่ง จัดอยู่ช่วงคลื่นอินฟราเรดไกล ด้วยความยาวคลื่น 10,600 nm แสงเลเซอร์ชนิดนี้มีเป้าหมายในการทำลายอยู่ที่น้ำ ซึ่งน้ำเป็นส่วน ประกอบของเซลล์ทุกเซลล์ ดังนั้น CO2 laser จึงสามารถใช้ในการตัดหรือลอกเนื้อเยื่อต่างๆได้เป็นอย่างดี ในขณะเดียวกันพลังงานความร้อนของเลเซอร์จะทำให้หลอดเลือดบริเวณที่มีการผ่า ตัดเกิดการหดตัว จึงเสมือนเป็นการหยุดเลือดไปพร้อมๆ กับการผ่าตัด
ดังนั้นหลังจากใช้ เลเซอร์ CO2 ผ่าตัด จี้ไฝ ขี้แมลงวัน จึงไม่เห็นเลือดไหลซึมออกจากแผล หรือถ้ามีก็มีเลือดออกเล็กน้อยเท่านั้นเอง ถ้าเทียบกับวิธีอื่นๆ ถือว่ามีประสิทธิภาพดีกว่ามาก และคุณสมบัติเด่นอีกข้อของ เลเซอร์ CO2 คือการลดโอกาสการติดเชื้อ เนื่องจากความร้อนของเลเซอร์ช่วยฆ่าเชื้อโรค การบวมน้อยกว่าวิธีอื่น อีกทั้งแผลสมานเข้ากันได้ดีโดยไม่ต้องใช้ไหมเย็บแผล
ในขั้นตอนการรักษาด้วยเลเซอร์ CO2 แพทย์จะใช้ยาชา อาจเป็นชนิดทา หรือฉีดเฉพาะที่ เมื่อยาชาออกฤทธิ์ แพทย์จะยิงเลเซอร์ลงในตำแหน่งที่มีปัญหาผิวในระยะเวลาอันสั้น แพทย์สามารถยิงได้หลายครั้งตามจำนวนของสิ่งที่ต้องการตัด โดยแพทย์จะระมัดระวังไม่ให้สัมผัสถูกผิวหนังหรือเนื้อเยื่อใกล้เคียงที่ไม่เกี่ยวข้อง เพราะจะทำให้เกิดรอยคล้ำไหม้ได้ การรักษาใช้เวลา 10-20 นาที ขึ้นอยู่กับชนิด ขนาด ของปัญหาในการรักษา ส่วนในกรณีทายาชาก็ต้องทายาชาทิ้งไว้ ประมาณ 30 นาที เพื่อให้ยาชาออกฤทธิ์ ถึงจะเริ่มรักษาได้
หลังจากยิงเลเซอร์แล้ว แพทย์จะให้ยาป้องกันการติดเชื้อ และปิดแผลไม่ให้ถูกน้ำ 1 วัน โดยภายใน 7 วัน ควรหลีกเลี่ยงเหงื่อ แดด ฝุ่น ควัน อากาศร้อน ไม่ควรให้แผลถูกแสง ไม่ใช้ครีมกันแดดหรือเครื่องสำอางบริเวณนั้น ขณะเดียวกันรอยแผลจะค่อยๆ แห้งจนตกสะเก็ด ซึ่งส่วนใหญ่สามารถหายเป็นปกติได้ใน 1-2 สัปดาห์ การใช้เลเซอร์ CO2 ตัดแทนมีดผ่าตัด ส่วนใหญ่จะขจัดปัญหาออกได้ในคราวเดียว ทำแค่ครั้งเดียว กำจัดปัญหาได้หมดเลย แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่ที่ว่า ปัญหาเดิมๆ จะเกิดขึ้นซ้ำที่เดิมอีกหรือไม่ ถ้ามีก็ต้องมาทำรักษาซ้ำที่จุดเดิม